กี่ครั้งกันในชีวิตของคนเรา
ที่เราปล่อยโอกาสดีๆ ผ่านไป
ที่เราไม่ยอมที่จะทำอะไร
ที่เราเลือกที่จะหยุดอยู่กับที่
ที่เราไม่ยอมทำตามความฝัน
ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า
ทุกอย่างสายเกินไป,ช้าเกินไป
หลายคนไม่กล้าบอกรัก
เพราะคิดว่า ช่วงเวลาของการบอกรักได้ผ่านไปแล้ว
บอกเขาไปตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร
หลายคนไม่กล้าทำตามความฝัน
เพราะคิดว่า เราแก่เกินที่จะทำตามความฝันแล้ว
เราแก่เกินที่จะพาตัวเองไปเผชิญหน้ากับความเสี่ยงอะไรๆ อีกต่อไปแล้ว
เรามักเอาเวลา
มากำหนดว่า
อะไรที่ช้าเกินไป อะไรที่สายเกินไป
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว
เวลาไม่เคยบอกเราเลยว่า
สิ่งใดกันที่ช้าเกินไป หรือว่า สายเกินไป
เวลาแค่ทำหน้าที่ของตัวมันเอง
ในการก้าวเดินไปกับทุกๆ วินาที
มีแต่เราเองเท่านั้นที่คอยบอกตัวเองในความคิด
เป็นความคิดที่หาข้อแก้ตัวให้กับตัวเองในการไม่เริ่มต้น
ว่าทุกอย่างช้าเกินไปแล้ว สายเกินไปแล้ว
เราโทษเวลา
เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกผิดกับการที่เราไม่ทำอะไร
เราโทษเวลา
เพื่อที่จะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยผ่านเลยไปอีกครั้ง
เมื่อที่เคยได้เป็นมา
ในกฎของกาลเวลา
ไม่มีอะไรที่ช้าเกินไป
ไม่มีอะไรที่สายเกินไป
ทุกอย่างยังเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
อยู่ที่ตัวเราเอง
ต้องเลิกบอกตัวเองสักที
ว่าทุกอย่างช้าเกินไป สายเกินไป
เมื่อเราหยุดคิดแบบนั้น
ก็ไม่มีอะไรเลย ที่จะช้าเกินไป หรือสายเกินไปจริงๆ