เช้าวันนี้ สิ่งที่อยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่
คือเรื่องราวของพายุปาบึกที่พัดพาเข้ามาในบริเวณจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย
สร้างความเสียหายและสูญเสียไปไม่น้อย
แต่ในท่ามกลางความมืดมิดของพายุ
ก็มีแสงสว่างบางอย่างให้เราได้มองเห็น
เป็นแสงสว่างที่เกิดขึ้นจากการเตรียมพร้อมรับมือกับพายุ
ทำให้ภัยธรรมชาติครั้งนี้แม้เลวร้าย แต่ไม่ร้ายแรงเท่าที่กังวล
เป็นเพราะเมื่อรู้ว่า พายุจะเข้ามา
ไม่มีใครประมาท
ทุกคนร่วมใจกันเตรียมรับมือกับพายุ
ในมุมหนึ่ง
เราทุกคนก็มีช่วงเวลาที่พบเจอพายุพัดพาเข้ามาในชีวิตของเรา
เป็นพายุที่เข้ามาในชื่อของปัญหา เป็นพายุที่เข้ามาในชื่อของอุปสรรค
เป็นพายุที่เข้ามาในนามของความเปลี่ยนแปลงเราทุกคนบนโลกใบนี้
ต่างต้องเจอพายุลูกนั้นของชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
สิ่งที่ทำให้คนแต่ละคนผ่านพายุที่พัดเข้ามาในชีวิตได้
คือ วิธีการที่เราใช้ในการรับมือพายุลูกนั้น
และการที่เราจะรับมือกับพายุได้
เราต้องยอมรับความจริงให้ได้ก่อนว่า
แม้ในวันที่ชีวิตของเราดูสงบ สุข และสดใส
นั่นไม่ได้แปลว่า เราจะไม่เจอปัญหา หรืออุปสรรคใดๆ เข้ามาในชีวิต
ในทางตรงกันข้าม
พายุแห่งปัญหาจะเข้ามาพัดพาชีวิตเราอย่างไม่ทันตั้งตัว
เราจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอว่า
วันนี้เราสุข พรุ่งนี้เราอาจทุกข์
วันนี้เป็นวันที่ดี พรุ่งนี้อาจเป็นวันที่แย่
การเตรียมพร้อมรับมือกับพายุที่เข้ามา
ไม่ได้ช่วยให้พายุไม่เข้ามา
ถึงอย่างไรปัญหา อุปสรรคก็จะเข้ามาในชีวิตของเราอยู่ดี
แต่การเตรียมพร้อมจะทำให้เรามีสติ
และสตินี่แหละที่จะนำพาเราผ่านปัญหาทั้งปวงไปได้
แน่นอนว่า อาจเปียกปอน
แน่นอนว่า อาจมีบางส่วนในหัวใจของเรากลายเป็นซากปรักหักพัง
ถึงอย่างนั้น ในวันที่ผ่านมาได้
เราก็จะรู้ว่า แม้เราไม่อาจแก้ไขอดีตที่ผ่านมาแล้วได้
แต่เราสามารถสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเราได้ใหม่อีกครั้ง
ไม่สำคัญว่าจะต้องเจอพายุแห่งชีวิตอีกกี่ลูก
ไม่สำคัญว่าจะต้องเผชิญปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาอีกกี่ครั้ง
สำคัญคือทุกครั้งที่ผ่านมาได้
เราไม่ลังเลใจที่จะเริ่มใหม่ทุกครั้ง
ด้วยความหวังถึงสิ่งที่ดีงามยิ่งกว่าเดิม
เพราะไม่มีพายุลูกไหนที่จะไม่ผ่านไป